ระทึก! มือปืนบุก กราดยิงออสเตรีย ตาย 3 เจ็บเพียบ

ระทึก! มือปืนบุก กราดยิงออสเตรีย ตาย 3 เจ็บเพียบ

มือปืนอาวุธครบมือบุกยิงหลายจุดทั่วเมืองหลวงของประเทศออสเตรีย จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุความรุนแรงครั้งนี้ เมื่อวันที่ 3 พฤษจิกายน สำนักข่าว BBC รายงานว่า มีมือปืนมากกว่า 1 คนได้ก่อเหตุกราดยิง 6 จุดทั่วกรุงเวียนนา เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย เมื่อช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น

เจ้าหน้าที่ตำรวจรายงานว่าในขณะนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บแล้วอย่างน้อย 15 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากเหตุอุกอาจครั้งนี้แล้ว 3 ศพ โดยหนึ่งในผู้เสียชีวิตมีมือปืนรวมอยู่ด้วย

โดยกลุ่มคนร้ายได้เริ่มก่อเหตุที่บริเวณหน้าที่ตั้งของสุเหร่ายิว ซึ่งหัวหน้าชุมชนชาวยิวในพื้นที่กล่าวว่า ในช่วงเวลาเกิดเหตุ เป็นช่วงที่สุเหร่าปิดทำการ ทำให้เขาไม่สามารถยืนยันได้ว่า สุเหร่าเป็นเป้าหมายในการโจมตีครั้งนี้หรือไม่

ด้านนายคาร์ล เนแฮมเมอร์ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของออสเตรียกล่าวว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเหตุก่อการร้าย พร้อมกล่าวอีกว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในประเทศออสเตรียจะลงมืออย่างเด็ดขาดกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ และจะไม่เกรงกลัวต่อกลุ่มผู้ก่อการร้าย ยังไม่มีการเปิดเผยแน่ชัดว่ามีผู้ลงมือก่อเหตุครั้งนี้กี่คน อย่างไรก็ตามทางรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยกล่าวว่า พวกเขาสามารถจับกุมมือปืนได้แล้วอย่างน้อย 1 คน

สำนักข่าวอัลจาซีรา รายงานว่านายเทโดรส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศเข้ารับการกักตัว หลังจากที่เขาได้ใกล้ชิดกับผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา โดยผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกได้ทวีตข้อความว่าเขาไม่แสดงอาการป่วยและยังสุขภาพแข็งแรงดี ซึ่งในช่วงที่ ผอ.อนามัยโลก กักตัวเขาจะยังคงทำงานจากที่บ้านแทน

โดยการเข้ารับการกักตัวในครั้งนี้ถือเป็นมาตรการที่องค์การอนามัยโลกเคยได้ประกาศเอาไว้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ซึ่งนอกจากการกักตัวแล้ว ทาง WHO ยังได้ขอให้ประชาชนคอยล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย และเว้นระยะห่างทางสังคม พร้อมขอให้ผู้แสดงอาการป่วยรีบติดต่อเจ้าหน้าที่ทันที

ซึ่งผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกยังได้กล่าวอีกว่าการปฏิบัติตามมาตรการถือเป็นสิ่งจำเป็น และจะมีส่วนสำคัญกับการยุติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งนี้นายเกเบรเยซุสไม่ได้เปิดเผยว่าบุคคลที่ใกล้ชิดที่เขากล่าวถึงคือใคร

ขณะนี้มียอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมเกือบ 47 ล้านราย และมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสแล้วมากกว่า 1 ล้าน 2 แสนศพ โดยชาติที่ยอดผู้ป่วยสะสมและเสียชีวิตมากที่สุดคือประเทศสหรัฐอเมริกา

เลือกตั้งสหรัฐ : 10 สิ่งที่ควรรู้ก่อนลุ้นผลลงเสียงเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ โดนัล ทรัมป์จะได้อีกสมัยหรือไม่

การเมืองของสหรัฐอเมริกากลับมาร้อนแรงอีกครั้งเมื่อการ เลือกตั้งสหรัฐ กำลังเวียนมาถึงกำหนดครบรอบ โดยประธานาธิบดีคนปัจจุบันของสหรัฐอเมริกา คือนายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นผู้นำที่มีคนสหรัฐทัั้งฝ่ายรักและฝ่ายชังมากพอ ๆ กัน แต่ดูเหมือนว่าฝ่ายสนับสนุนจะมีมากกว่า เพราะแม้จะมีกระแสต่อต้าน แต่สุดท้ายเขาก็ชนะการเลือกตั้งไปในครั้งที่แล้ว

มาถึง ปี 2020 ปีแห่งความร้อนแรงท่ามกลางกระแสโควิดในสหรัฐที่ตัวเลขยังไม่มีทีท่าว่าจะบรรเทา ตัวทรัมป์เองก็เพิ่งติดโควิดหาย การบริหารประเทศท่ามกลางสภาวะวิกฤติของเขานั้น จะส่งผลต่อคะแนนเสียงแค่ไหน มาปูพื้น 10 สิ่งพื้นฐานที่คุณควรรู้ก่อนทราบผล

1. เลือกตั้งสหรัฐอเมริกาครั้งใหม่นี้มีกำหนดขึ้นในวันที่ 3 พ.ย. หรือวันพรุ่งนี้นั่นเอง

2. การเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการต่อสู้ระหว่าง พรรคเดโมเครต ส่ง โจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสมัยบารัค โอบาม่า เข้าท้าชิงนายโดนัลทรัมป์ จากพรรครีพับพลิกัน

3. นายทรัมป์เข้าสู่แวดวงการเมืองเมื่อปี 2016 ขณะที่นายโจ ไบเดน คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงการเมืองสหรัฐมาตั้งแต่ยุค 1970

4.  รูปแบบการเลือกตั้งสหรัฐค่อนข้างซับซ้อน การที่แต่ละพรรคจะได้ตำแหน่งผู้ชิงประธานาธิบดีต้องมาจากการเลือกตั้งภายในของสมาชิกพรรคก่อน จนได้ตัวแทนมาชิงเก้าอี้ประมุขซึ่งจะพ่วงตำแหน่งรองประธานาธิบดีมาด้วยหนึ่งคน

จากนั้นจะเข้าสู่การเลือกตั้งระบบประชาชนที่จะมาขึ้นในวันที่ 3 อเมริกันชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปจะลงคะแนนเสียง ซึ่งจะเป็นการลงคะแนนเสียงเลือกประธานาธิบดีแบบทางอ้อม

กล่าวคึอ ประชาชนจะกาเลือกคนที่ตนอยากให้ชนะเลือกตั้ง แต่เสียงทีได้จะส่งไปให้ electoral vote หรือ ผู้เลือกประธานาธิบดี ซึ่งแต่ละรัฐมีจำนวนไม่เท่ากัน แบ่งสัดส่วนกันตามจำนวนสัดส่วนประชากรรัฐและสัดส่วนจำนวนเก้าอี้ที่แต่ละรัฐมีในสภาคองเกรส

เมื่อเลือกตั้งเสร็จ คณะผู้เลือกตั้งที่มาจากแต่ละรัฐซึ่งมาจากการโหวตของประชาชน มีทั้งหมดจำนวน 538 คน ถ้าผู้ใดได้รับคะแนนเสียงเกินครึ่งหนึ่งก็จะได้เป็นประธานาธบดีและรอง

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป